เทศกาลกินเจ 2567 เริ่มวันไหน



เทศกาลกินเจเป็นงานประจำปีที่ผู้คนงดเว้นจากผลิตภัณฑ์จากสัตว์และกินเฉพาะอาหารมังสวิรัติที่ไม่มีส่วนผสมกลิ่นฉุน คนไทยเรียกเทศกาลนี้ว่า “กินเจ” เป็นเวลา 9 วันตามปฏิทินจันทรคติ โดยเริ่มในวันที่ 1 ของเดือน 9 ตามจันทรคติ ซึ่งตรงกับเดือนกันยายนหรือตุลาคมในแต่ละปี บทความนี้ Mr.OOHOO พาไปเช็ก เทศกาลกินเจ เริ่มวันไหน กินยังไงให้ถูกต้อง



ความหมายของคำว่า “เจ”

ในภาษาจีนคำว่า "เจ" หมายถึงการปฏิบัติตามความบริสุทธิ์ เหมารวมทั้งร่างกายและจิตใจ มีจุดประสงค์เพื่ออุทิศตนทางศาสนาหรือการถวายเครื่องบูชาและบูชาเทพเจ้าทั้งเก้าองค์ ชาวจีนแผ่นดินใหญ่เรียกเทศกาลนี้ว่า "เทศกาลเทพเจ้าจักรพรรดิองค์ที่ 9" ซึ่งเฉลิมฉลองเทพเจ้าทั้ง 9 องค์ที่เคารพนับถือ



ปี 2567 นี้เทศกาลกินเจจัดขึ้นระหว่างวันที่ 3 ตุลาคม ถึง 11 ตุลาคม เพื่อน ๆ ที่ตั้งใจจะเริ่มกินเจอาจจะต้องทำความเข้าใจขั้นตอนการกินเจให้ดีก่อน เพราะหากไม่ทำการ “ล้างท้องก่อนกินเจ” อาจเกิดอันตรายกับร่างกาย หรือเรียกว่า โหมหนักเกินไป ว่าแต่… วิธีการ “ล้างท้อง” คืออะไร หาคำตอบได้ จากข้อมูลด้านล่างนี้ได้เลย



ทำไมต้อง “ล้างท้อง” ก่อนกินเจ?

บางคนอาจเริ่มเตรียมตัวสำหรับเทศกาลกินเจด้วยการ “ล้างท้อง” เพื่อทำความสะอาดร่างกายตั้งแต่เย็นวันก่อนเริ่มเทศกาลโดยเริ่มจากการกินอาหารมังสวิรัติ 1-2 วันก่อนเริ่มเทศกาลจริงเพื่อให้ร่างกายค่อยๆ ปรับตัวและคุ้นเคยกับการกินอาหารมังสวิรัติมากขึ้น และช่วยให้การเปลี่ยนแปลงเป็นไปอย่างราบรื่น



ที่มาของเทศกาลกินเจ ทำไมต้องกินเจ?

มีตำนานหลายเรื่องที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของเทศกาลกินเจ แต่โดยทั่วไปเชื่อกันว่าเริ่มต้นจากผู้ก่อตั้งลัทธิเต๋า ก่อนที่เทศกาลนี้จะกลายเป็นเทศกาลประจำปีของชาวจีน คนส่วนใหญ่ก็ตั้งข้อสังเกตว่าเทศกาลนี้ มีจุดประสงค์เพื่อสะสมบุญและอุทิศการกระทำส่งต่อให้ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว เพื่อรับมือกับการสูญเสีย การกินเจจึงถูกจัดขึ้นอย่างเป็นทางการเป็นงานประจำปี



ทั้งนี้ ช่วงเวลาแร้นแค้นในอดีตที่หาเนื้อสัตว์ยาก หรือพืชพรรณต่าง ๆ อุดมสมบูรณ์จึงมีการจัดเทศกาลกินเจขึ้นเพื่เฉลิมฉลองด้วยประการนี้ก็เป็นไปได้ แต่หากมองในมุมความเป็นสากล จากการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมอาหารประเภทเนื้อสัตว์ ที่ต้องใช้วัตถุดิบและสูญเสียพลังงานในการผลิตออกมามากการงดเนื้อสัตว์ และให้ความสำคัญกับการกินมังสวิรัตจึงนิยมมากขึ้นไม่ใช่กับแต่เฉพาะประเทศจีนเท่านั้น



เทศกาลกินเจในประเทศไทยเป็นประเพณีที่สืบทอดมาจากลูกหลานชาวจีน เมื่อเวลาผ่านไปความเชื่อพร้อมวัฒนธรรมการกินเจก็ผสานเข้ากับผู้คนในท้องถิ่น ทำให้เกิดประเพณีอันโดดเด่นที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่นในหมู่ลูกหลานชาวจีนในประเทศไทย



ในช่วงเทศกาลกินเจในประเทศไทย คนไทยเชื้อสายจีนมักจะจัดงานเฉลิมฉลองครั้งใหญ่เพื่อฟื้นฟูความเชื่อของบรรพบุรุษ ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมาก สถานที่ได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักมากที่สุด คือ เทศกาลกินเจเยาวราชในกรุงเทพฯ และเทศกาลกินเจในภูเก็ต

เทศกาลกินเจในกรุงเทพฯ

ย่านเยาวราช หรือรู้จักกันดีในชื่อ ไชน่าทาวน์ (Chinatown) เป็นจุดรวมตัวหลักสำหรับการเฉลิมฉลองเทศกาลกินเจตลอดทั้งสัปดาห์ แผงลอยขายของชั่วคราวตั้งขายอาหารไร้เนื้อสัตว์ ของไหว้เจ้า และขนมหวานมากมาย ตามข้อกำหนดของเทศกาล ร้านที่ขายอาการเจ หรือ มังสวิรัตมักจะติด “ธงเจ” สีเหลือง หรือ สัญลักษณ์ภาษาจีน ไว้หน้าทางเข้า เวลาที่ดีที่สุดที่จะแวะไปคือช่วงเย็นประมาณ 17.00 น. เป็นต้นไป รับรองว่าเพลิดเพลินกับของกินที่ตั้งเต็มทางเดินทั้งคืนแน่นอน

สายแฟร์ที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศ สามารถชมการแสดงงิ้วจีนตามวัดที่ตั้งในย่านนั้นได้ หนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดในการเฉลิมฉลองเทศกาลกินเจ คือซอย 20 ของถนนเจริญกรุง การแสดงงิ้วจีนจัดขึ้นทุกวันระหว่างเวลา 18.00 น. - 19.00 น.

เทศกาลกินเจในภูเก็ต

นอกจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยสีสันตลอดทั้งปี ภูเก็ตยังถือเป็นศูนย์กลางของเทศกาลกินเจของไทย เนื่องจากประชากรมากกว่า 30% มีเชื้อสายจีน พิธีกรรมในช่วงที่เทศกาลนี้คึกคัก ได้แก่ การฟันลิ้นและเดินเท้าเปล่าบนถ่านที่ร้อนจัด หากเพื่อน ๆ อยากไปสัมผัสประสบการณ์แบบ Unseen ที่หาชมยาก ภูเก็ตช่วงเทศกาลก็ถือเป็นหนึ่งจุดเยี่ยมชมที่ขาดไม่ได้เช่นกัน

กินเจยังไงให้ถูกต้อง?

เทศกาลกินเจเป็นการเฉลิมฉลองของชาวจีนต่อเทพเจ้าจักรพรรดิทั้ง 9 พระองค์ คนที่เคร่งมาก ๆ จะถือข้อปฏิบัติอย่างเข้มงวด โดยละเว้นเนื้อสัตว์ สัตว์ปีก อาหารทะเล หรือผลิตภัณฑ์จากสัตว์ใดๆ เช่น นมและไข่ รวมถึงกระเทียม หัวหอม กระเทียมหัวเดียวของจีน และกุ้ยช่ายจีน นั่นหมายถึงว่า งดเว้นอาหารประเภทที่ส่งกลิ่นแรง

ข้อควรปฏิบัติกินเจ

1.กินเฉพาะอาหารมังสวิรัตเท่านั้น

อาหารที่กินได้แต่ไม่แนะนำได้แก่ เครื่องดื่มอัดลม (โซดา) , ผงปรุงรส (ผงชูรส) , ช็อคโกแลต เป็นต้น

2.หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสจัด เช่น อาหารรสเผ็ด หวาน เปรี้ยว และเค็ม รวมถึงผักที่มีกลิ่นแรง ใช้ภาชนะและภาชนะแยกต่างหากสำหรับอาหารมังสวิรัติโดยเฉพาะ

3.รักษาศีลห้า ทำใจให้บริสุทธิ์ ทำบุญและการกุศล ไหว้เทพเจ้า และนั่งสมาธิ

4.งดเว้นจากการใช้คำหยาบคาย

5.งดกิจกรรมทางเพศ

6.สวมเสื้อผ้าสีขาวในช่วงเทศกาล

7.เข้าร่วมพิธีทางศาสนาต่าง ๆ ที่วัด



การท่องเที่ยวช่วงเทศกาลก็ย่อมคึกคักเป็นพิเศษ ถ้าเพื่อน ๆ เดินทางด้วยรถยนต์ก็ต้องระมัดระวัง เตรียมพร้อมก่อนออกจากบ้าน มีสติและเช็กเส้นทางที่ไปให้ดี ที่สำคัญ เช็กประกันรถยนต์ ว่าขาดหรือไม่? เพราะหากเกิดเหตุฉุกเฉิน ยังมีประกันรถยนต์คอยคุ้มครอง OOHOO.io แหล่งรวมประกันรถยนต์จากหลายบริษัทประกันชั้นนำยอดฮิต เทียบเบี้ยหลายตัวเลือก เช็กราคาได้ฟรี!!! ตลอด 24 ชั่วโมง